How did Scandinavia transition into democracy?

เส้นทางประชาธิปไตยในสแกนดิเนเวีย เอาแบบไม่เพ้อเจ้อ คือว่า..
ประเทศในสแกนดิเนเวียเดินทางเข้าสู่เส้นทางระบอบประชาธิปไตยครบถ้วนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 20 นี่เองค่ะ

เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน เป็นการผ่องถ่ายอำนาจสูงสุดในการปกครองจากสถาบันกษัตริย์และกลุ่มชนชั้นนำเล็กๆ มาสู่ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ฟินแลนด์ เป็นการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยขึ้นแทนอำนาจของสถาบันกษัตริย์จากรัสเซีย

สวีเดนมีรัฐธรรมนูญใน ค.ศ. 1809
นอร์เวย์ ค.ศ. 1814
เดนมาร์ก ค.ศ. 1849
ฟินแลนด์ ค.ศ. 1905

อำนาจอธิปไตยเปลี่ยนมือจากชนชั้นนำมาสู่ประชาชน
อำนาจในการปกครองบริหารเปลี่ยนจากสถาบันกษัตริย์สู่รัฐสภามาจากการออกเสียงเลือกตั้งของประชาชน
อำนาจของขุนนางแบบศักดินาเปลี่ยนมาเป็นอำนาจที่วางอยู่บนเงินและความมั่งคั่ง

การเมืองในย่านนี้มีการเคลื่อนไหวต่อสู้กันทั้งในระบบรัฐสภาและภาคประชาชน เพื่อระบบการเลือกตั้งอันเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

  • ในนอร์เวย์มีการจำกัดอำนาจของกษัตริย์และถ่ายโอนอำนาจนั้นไปสู่ประชาชนชาวนอร์เวย์
  • ในสวีเดน สถาบันกษัตริย์เริ่มยอมรับการมีพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยม และเดินทางเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยโดยลดอำนาจกษัตริย์ลงเรื่อยๆ
  • ในเดนมาร์กกษัตริย์ต้องยอมรับสถานะที่ต้องถูกจำกัด และกลายเป็นสัญลักษณ์ของรัฐ จนถึงวันนี้
  • ในฟินแลนด์ มีรัฐธรรมนูญ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ผู้นำมาจากการเลือกของประชาชน พลเมืองทุกคนมีสิทธิ์เลือกตั้งอย่างเท่าเทียม มีประธานาธิบดีที่มาจากผู้แทนราษฏร

ช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ภูมิภาคสแกนดิเนเวียเป็นที่รู้จักว่าเป็นกลุ่มประเทศรัฐสวัสดิการของประวัติศาสตร์ตะวันตก ซึ่งเป็นผลพวงของยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาจนถึงสงครามเย็น ในการปรองดองระหว่างนายทุนและแรงงาน

หัวใจของรัฐสวัสดิการ คือ

ความเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคคล มีความรับผิดชอบที่จะเข้าไปสร้างประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม สังคมที่นี่ให้ค่าคำว่า Trust แบบทุกอณู

ความเท่าเทียม สังคมได้รับการปลดปล่อยจากข้อห้ามดั้งเดิม ทุกคนสามารถเข้าถึงคุณภาพพื้นฐานชีวิตได้อย่างเท่าเทียม รัฐดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์ยันเชิงตะกอน

ประชาธิปไตย ที่มีรากฐานไปถึงสังคมโรงเรียน ประชาธิปไตยของเยาวชนคือประชาธิปไตยของประเทศ ส่วนตัวยังไม่เคยได้ยินหน่วยงานจัดการเลือกตั้งของที่นี่บ่นว่าทำไมเด็กสมัยใหม่เลือกพรรคนั้นพรรคนี้

การมีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสหภาพแรงงาน องค์กรทางการเมืองที่แก้และปรับใช้กฎหมายให้ทันสมัย รวมทั้งสิทธิในการประท้วงและแสดงความเห็นทางสาธารณะ คนที่นี่ดูเหมือนจะโดดเดี่ยวแต่พอได้รวมกลุ่มเท่านั้นแหล่ะ ปล่อยพลังกัน 500%

การวางแผนเศรษฐกิจของรัฐ เงินที่สร้างจากระบบทุนนิยมต้องถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณะ ดังนั้นการจ่ายภาษีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในฐานะการเป็นพลเมืองของรัฐสวัสดิการ ในเดนมาร์กคำว่าที่รักและหน่วยงานเก็บภาษีคือคำเดียวกัน นั่นคือคำว่า SKAT

การจะธำรงระบบรัฐสวัสดิการให้ดำเนินไปได้นั้น ต้องอาศัยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดอัตราจ้างงานสูง การว่างงานต่ำ รัฐมีนโยบายลดภาษีการลงทุนพื้นฐานเพื่อดึงดูดนักลงทุน ส่งเสริมเรื่องรัฐวิสาหกิจ และเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การค้าระหว่างประเทศหรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจในทุกระดับกับต่างประเทศ

ป.ล. ถ้าคิดเห็นแตกต่างอย่างไรเชิญถกเถียงได้ค่ะ

อ้างอิงจาก ประวัติศาสตร์สแกนดิเนเวีย เขียนโดย ปรีดี หงษ์ต้น