เมื่อการเหยียดคนข้ามเพศกลายเป็นอาวุธของนักการเมือง

โดย นก อุ่นผล
Series: บทเรียนจากยุโรป

การเมืองแห่งความเกลียดชัง : เมื่อคนข้ามเพศถูกใช้เป็นเครื่องมือ

ระเบียบใหม่โลก

ในยุคที่ความหลากหลายควรได้รับการยอมรับ

การเหยียดคนข้ามเพศกลับกลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองทั่วโลก เพื่อเรียกคะแนนเสียงและเบี่ยงเบนประเด็นสำคัญ

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจตัวอย่างจากหลายประเทศ พร้อมแนวทางที่เราจะร่วมกันหยุดยั้งการเมืองแห่งความเกลียดชังนี้ได้

ในหลายประเทศทั่วโลก พรรคการเมืองบางกลุ่มยังคงใช้ transphobia (การหวาดกลัวหรือเกลียดชังคนข้ามเพศ) เป็นเครื่องมือเรียกคะแนนเสียง ด้วยการปลุกปั่นความกลัว สร้างวาทกรรมเกลียดชัง และบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคนข้ามเพศ เพื่อดึงดูดฐานเสียงอนุรักษ์นิยมและเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาสังคมที่แท้จริง

สหรัฐอเมริกา

พรรครีพับลิกันในหลายรัฐผลักดันกฎหมาย “anti-trans” ที่จำกัดสิทธิคนข้ามเพศ เช่น
ห้ามเด็กข้ามเพศเข้าร่วมทีมกีฬาตามเพศที่ตนระบุ (เช่น กฎหมายในเท็กซัสและฟลอริดา)

แบนหนังสือหรือสื่อการเรียนการสอนที่พูดถึงประเด็นข้ามเพศหรือ LGBTQ+ ในโรงเรียน (เช่น โครงการ “Don’t Say Gay” ในฟลอริดา)

จำกัดการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์สำหรับเยาวชนข้ามเพศ เช่น การบำบัดด้วยฮอร์โมน (มีผลใน 24 รัฐ ณ ปี 2024)

วาทกรรม “ปกป้องเด็ก” หรือ “รักษาค่านิยมครอบครัว” ถูกใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสร้างภาพว่าคนข้ามเพศเป็นภัยคุกคาม

จากรายงานของ Human Rights Campaign (2024) มีกฎหมายต่อต้านคนข้ามเพศมากกว่า 500 ฉบับถูกเสนอในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งมากกว่าครึ่งกลายเป็นกฎหมายที่บังคับใช้

ฮังการี

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี Viktor Orbán ออกกฎหมายในปี 2021 ห้ามเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ ในโรงเรียนและสื่อ โดยอ้างว่าเป็นการ “ปกป้องเยาวชนจากการชวนเชื่อ”

คนข้ามเพศถูกจำกัดสิทธิ เช่น การเปลี่ยนเพศในเอกสารราชการถูกแบนตั้งแต่ปี 2020 ทำให้เกิดปัญหาการเลือกปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

Amnesty International (2023) ระบุว่านโยบายเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาคอร์รัปชันและวิกฤตเศรษฐกิจ โดยใช้กลุ่ม LGBTQ+ เป็น “แพะรับบาป”

รัสเซีย

รัฐบาลภายใต้การนำของ วลาดิเมียร์ ปูติน บังคับใช้กฎหมาย “ต่อต้านโฆษณาชวนเชื่อ LGBT” ตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งขยายขอบเขตในปี 2022 เพื่อจำกัดการพูดถึงคนข้ามเพศและความหลากหลายทางเพศในที่สาธารณะ

คนข้ามเพศถูกจำกัดสิทธิพื้นฐาน เช่น การเปลี่ยนชื่อหรือเพศในเอกสารราชการ และถูกห้ามทำงานในบางอาชีพ เช่น ครูหรือข้าราชการ

จากรายงานของ LILGA-Europe (2024) รัสเซียติดอันดับหนึ่งในประเทศที่มีการเลือกปฏิบัติต่อคนข้ามเพศอย่างเป็นระบบ โดยมีการจับกุมและลงโทษบุคคลที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศอย่างเปิดเผย

สหราชอาณาจักร

การถกเถียงเรื่องสิทธิคนข้ามเพศถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้ง พรรคอนุรักษ์นิยม (Conservatives) บางส่วนผลักดันวาทกรรม “ปกป้องพื้นที่ของผู้หญิง” เพื่อต่อต้านการปฏิรูปกฎหมายให้คนข้ามเพศเปลี่ยนเพศในเอกสารได้ง่ายขึ้น

รายงานของ Stonewall (2023) ชี้ว่าการโจมตีคนข้ามเพศในสื่อและการเมืองทำให้อัตราการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อคนข้ามเพศในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 56% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

โปแลนด์

รัฐบาลพรรค Law and Justice (PiS) ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ใช้ประเด็นคนข้ามเพศและกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเครื่องมือในการปลุกกระแสความกลัว โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้ง

มีการรณรงค์สร้างแนวคิด “LGBT-free zones” ในบางเมือง ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างเป็นระบบ

นักการเมืองบางคน เช่น อดีตประธานาธิบดี Andrzej Duda ใช้ถ้อยคำเช่น “อุดมการณ์ LGBT” เพื่อโจมตีกลุ่มข้ามเพศและความหลากหลายทางเพศ โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อ “ค่านิยมครอบครัวแบบดั้งเดิม”

รายงานจาก LILGA-Europe (2024) ระบุว่าโปแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้ถ้อยคำเหยียดหยามกลุ่ม LGBTI โดยนักการเมืองอย่างแพร่หลาย ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของความรุนแรงต่อคนข้ามเพศ

สิ่งที่เราทำได้ในฐานะประชาชน

  • ตั้งคำถามและตรวจสอบพรรคการเมืองที่ใช้วาทกรรมเหยียดเพศเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
  • สนับสนุนพรรคหรือผู้สมัครที่มีนโยบายส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและเคารพสิทธิมนุษยชน
  • เรียนรู้และแชร์ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับคนข้ามเพศ เพื่อลดอคติและสร้างความเข้าใจในสังคม
  • ร่วมรณรงค์ในชุมชนหรือออนไลน์เพื่อต่อต้านการใช้ความเกลียดชังเป็นเครื่องมือทางการเมือง

เกี่ยวกับผู้เขียน

นก เรียนด้านไอที มีประสบการณ์ทำงานด้านพัฒนาระบบของธนาคารแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ปัจจุบันทำงานออกแบบระบบของผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์อันดับต้นๆ ของโลก 

เวลาว่างชอบทำกับข้าว ดูซีรีย์เกาหลี ชอบติดตามข่าวและความเคลื่อนไหวด้าน Cyber Security และช่วงนี้ติดตาม IG หมีเนย