โดย ทราย ภัทร์ศรัณย์
การดูหนังไทยในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องที่พบบ่อย ยิ่งเป็นหนังสารคดีการเมืองแล้ว ยิ่งหายากเข้าไปอีก
การดูสารคดี Breaking the Cycle (2024) ในต่างประเทศ เป็นการรวบรวมคนที่สนใจในโลกขนาดเล็ก ภาพยนตร์เป็นเสียงภาษาไทย แต่ว่ามีซับไตเติลเป็นภาษาอังกฤษ และคุยกันเป็นภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย บรรยากาศนี้มันให้ความรู้สึกอีกแบบนะ
เคยอกหัก
เคยอกหักแล้ว Move on ไม่ได้ไหม
พยายามแล้ว พยายามอีก
ปล่อยเวลาไปเท่าไร
แต่สุดท้ายก็วนกลับมาที่เดิม
เอออออ นั้นแหละ
ความรู้สึกหลังดู Breaking The Cycle จบ
ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ Guru เรื่องหนัง
หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง
แต่อยากแชร์และชวนคุยตามประสา
“คนอกหัก” จากการเมืองไทย
ก่อนไปดู
ก่อนไปดู Breaking The Cycle
เราไม่ได้รู้จักหนังมากไปกว่าการดู Trailer
และคิดว่าน่าจะเป็นสารคดีเกี่ยวกับพรรคอนาคตใหม่
แต่พอดูจริง ๆ แล้วกลับรู้สึกไม่ใช่แหะ
ไม่รู้สึกว่าเป็นสารคดีที่ถาโถมด้วยข้อมูล
เค้นเร้าอารมณ์ดราม่า
หรือแม้กระทั้ง
ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสถานการณ์ ณ ตรงนั้นเวลานั้นด้วย
มันมีความคล้าย Reality Show
ที่ไม่ได้ถูกเขียนบทหรือจัดฉากขึ้นมา
นิดหน่อย นิดหน่อย
Breaking The Cycle มีความนิดหน่อยในหลายองค์ประกอบ
เล่าเรื่อง การรัฐประหารปี 57 นิดหน่อย
เล่าเรื่อง พรรคอนาคตใหม่ นิดหน่อย
ไม่นิดหน่อยเห็นจะเป็นการปรากฎตัวของคุณธนาธรในหนัง
ไม่แน่ใจว่าผู้ทำหนังต้องการเสนอภาพรวมของการเมืองไทย
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาหรือเปล่า
ถ้าใช่.
ควรมี Movement ทางการเมืองอื่น ๆ ด้วยเช่น
กลุ่มนักเรียนเลว, สามกีบ
หรือการประท้วงของกลุ่มคนไทยในต่างแดน
ถ้าไม่ใช่.
แล้วคืออะไรอะ?
บรรยากาศ ไทย-ต่างชาติ
จริง ๆ คำตอบของคำถามเราอาจจะไม่สำคัญก็ได้
เพราะหลังหนังจบ
กลุ่มคนดูทั้งไทยและต่างชาติก็ยืนล้อมวงถกเรื่องการเมืองไทยกัน
แม้เราจะจำคำถาม & คำตอบไม่ได้
แต่เราจำความรู้สึกเราตอนนั้นได้
เออออ ชอบบรรยากาศแบบนี้อ่ะ
ถกและถามแบบอารยะ
คิดและแลกเปลี่ยนมุมมองโดยไม่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง
ก่อนดูหนัง
โคตรเหมือนไป Movie Night บ้านเพื่อน
(แต่จัดตอนบ่าย เวลา Afternoon Tea)
คนนั้นก็เคยเจอกัน ณ วงเสวนาการเมือง
คนนี้ก็รู้จัก มักจี้เรื่องส่วนตัวกันพอประมาณ
คนโน้นก็เคยคุยเคยแลกเปลี่ยนทัศนคติชีวิตกัน
It seems casual but it actually qualifies.
บรรยากาศ หนังจบ
พวกเราจบวงสนทนาในวันนั้น
ด้วยการแยกย้ายไปใช้เวลาส่วนตัวในหน้าร้อนอันแปลกประหลาดของเมือง
แปลกประหลาดที่ว่า มันไม่ได้ร้อนจ๋าทุกวัน
หรือค่อย ๆ ร้อนอย่างที่ควรจะเป็น
บางวัน ร้อนมาก ตับแลบ
บางวัน แอบเย็นจนต้องพกเสื้อคลุมติดตัว
บางวัน ฝนตกเหมือนฟ้ารั่ว
เออออออ มันเหมือนการเมืองไทยไหมนะ
ที่แม้ตอนนี้จะยังไม่ใช่อย่างที่คิด อย่างที่หวัง
แต่วันเวลามันก็ต้องไปต่อ
การเมืองไม่จบ
อนาคตใหม่ ทำให้ The Cycle โคตรสั่นคลอน
ก้าวไกล ก็ขยับไปเขย่าให้ The Cycle เริ่มร้าวราน
เราก็ได้แต่หวังว่า
นับแต่นี้ The Cycle จะเริ่มมีรูรั่ว
ที่ซ่อมไม่ได้และขยายขนาดขึ้น
จนมัน Breaking จริง ๆ ใน Generation เรา
แต่เราก็ไม่ต้องรู้สึกอกหักซ้ำซากกับเรื่องเดิม ๆ ที่แค่เปลี่ยนตัวละคร
ป.ล. (1) ถ้าถามว่า ชอบอะไรในหนังมากสุด
ขอตอบว่า sound ประกอบต่าง ๆ
แห๊มมมมม
เลือกแทรกมาได้ถูกจังหวะ ถูกอารมณ์จริง ๆ แหะ
เกี่ยวกับผู้เขียน
ภัทร์ศรัณย์ นักสังคมสงเคราะห์ด้านเยาวชนผู้อพยพ ที่ถนัดไถไอจีดู Foodporn และชอบความเป็นเป็ดของตัวเองพอดู