โดย นก อุ่นผล
สหรัฐบุกกรีนแลนด์แบบไม่มีใครเชิญ เจอเดนมาร์กสวนกลับแรง
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ บุกกรีนแลนด์แบบไม่มีใครเชิญ เจอเดนมาร์กสวนกลับแรงผ่านโซเชียล!
การเมืองระหว่างประเทศร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อเดนมาร์กตอบโต้การเยือนของรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ แบบไม่ไว้หน้า งานนี้เป็นเพียงกระทบกระทั่งทางการทูต หรือเป็นสัญญาณของความขัดแย้งที่ลึกกว่านั้น?
การตอบโต้ของเดนมาร์กผ่านโซเชียลมีเดีย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเดนมาร์ก ลาร์ส ล็อกเก ราสมุสเซน ได้แสดงความไม่พอใจต่อการเยือนกรีนแลนด์ของแวนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยออกมาตอบโต้ผ่านสื่อโซเชียลแทนที่จะเป็นแถลงการณ์ทางการ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางใหม่ของเดนมาร์กในการรับมือกับการทูตแบบ “สร้างคอนเทนต์” ของรัฐบาลทรัมป์ การเลือกใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ ไม่เพียงแต่ตอบโต้ได้รวดเร็ว แต่ยังลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมืองในระดับสากลอีกด้วย
บริบททางการเมืองของกรีนแลนด์
ทั้งนี้ แวนซ์เดินทางไปเยือนกรีนแลนด์ในช่วงเวลาที่ประเทศเพิ่งผ่านการเลือกตั้งและยังไม่มีรัฐบาลใหม่ที่จัดตั้งอย่างเป็นทางการ ทำให้การกระทำของสหรัฐฯ ถูกมองว่าไม่เหมาะสม และดูเหมือนว่าจะเป็นการแทรกแซงทางการเมือง ขณะเดียวกัน การจัดตั้งรัฐบาลกรีนแลนด์ก็สำเร็จในวันเดียวกัน โดยพรรคร่วมรัฐบาลที่เข้าร่วมทั้งหมดไม่มีนโยบายผลักดันเอกราชจากเดนมาร์ก ณ เวลานี้ พร้อมแสดงจุดยืนด้วยคำพูดที่ว่า “We have to hurry slowly.” หรือแปลเป็นไทยว่า “เราต้องเร่งรีบอย่างช้าๆ” สะท้อนถึงแนวทางของรัฐบาลกรีนแลนด์ที่เลือกดำเนินนโยบายด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะในประเด็นเอกราชจากเดนมาร์ก

ปฏิกิริยาของนายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก
นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เมตเต เฟรเดอริกเซน ซึ่งมีประวัติขัดแย้งกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาอย่างต่อเนื่อง ได้ประกาศแผนเดินทางไปเยือนกรีนแลนด์ในวันพุธนี้ ท่ามกลางการจับตาของประชาคมโลก ว่าการตอบโต้ของเดนมาร์กจะเป็นเพียง “สงครามคอนเทนต์” หรือจะมีมาตรการอื่นเพิ่มเติม
ปฏิกิริยาของกรีนแลนด์
ด้านนายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ มูเต เอเกเด ระบุว่า การเดินทางของแวนซ์เป็น “การยั่วยุอย่างชัดเจน” เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของสหรัฐฯ เข้าร่วมในคณะเดินทาง ขณะที่ภรรยาของแวนซ์ อูชา แวนซ์ ได้โพสต์วิดีโอบนอินสตาแกรม แสดงความตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันสุนัขลากเลื่อนที่เมืองซิซิมิอุต แต่สมาคมสุนัขลากเลื่อนของกรีนแลนด์ (KNQK) ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่าไม่มีการเชิญคณะผู้แทนจากสหรัฐฯ แต่อย่างใด นักข่าวสัมภาษณ์ชาวกรีนแลนด์ในงานแข่งขันก็ได้รับคำตอบในลักษณะ “งานนี้เป็นของพวกเรา อเมริกาจะมาไม่มาไม่สำคัญ เพราะเราไม่ได้เชิญ” ถือเป็นการต้อนรับแบบ cold reception ในสไตล์ชาวกรีนแลนด์
cold reception หรือ การต้อนรับที่เย็นชา ไร้อัธยาศัย หรือไม่ได้ให้ความสำคัญกับแขกผู้มาเยือน ซึ่งในกรณีของกรีนแลนด์ การปฏิบัติต่อรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์และคณะของเขาสะท้อนถึงแนวทางที่ ไม่ได้เป็นการขับไล่โดยตรง แต่เต็มไปด้วยสัญญาณของความไม่แยแสและเมินเฉย
บทสรุปตอนนี้
นอกจากมิติทางการทูตแล้ว กระแสการตอบโต้ของประชาชนเดนมาร์กก็เริ่มเห็นได้ชัดขึ้น มีการชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในโคเปนเฮเกน พร้อมป้ายข้อความ “Make America Go Away” ที่ล้อเลียนสโลแกน “MAGA” ของทรัมป์ ขณะที่ร้านค้าหลายแห่งในเดนมาร์กเริ่มแสดงสัญลักษณ์แหล่งผลิตสินค้าชัดเจน โดยให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์จากยุโรปมากขึ้น บางร้านถึงกับงดขายสินค้าจากอเมริกา นับเป็นสัญญาณว่ากระแสต่อต้านสหรัฐฯ อาจลุกลามไปถึงระดับพฤติกรรมผู้บริโภค
การตอบโต้ครั้งนี้จะเป็นเพียงประเด็นทางโซเชียล หรือจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในแนวทางความสัมพันธ์ระหว่างเดนมาร์ก-สหรัฐฯ ในระยะยาว? ต้องติดตามต่อไป
เกี่ยวกับผู้เขียน

นก เรียนด้านไอที มีประสบการณ์ทำงานด้านพัฒนาระบบของธนาคารแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ปัจจุบันทำงานออกแบบระบบของผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์อันดับต้นๆ ของโลก
เวลาว่างชอบทำกับข้าว ดูซีรีย์เกาหลี ชอบติดตามข่าวและความเคลื่อนไหวด้าน Cyber Security และช่วงนี้ติดตาม IG หมีเนย