โดย นก อุ่นผล
Series: บทเรียนจากยุโรป
ถอดรหัสบทสนทนาของทักษิณ จะเจาะลึกโลกการเงินสะอาดได้อย่างไร?
จากความกังวลเรื่อง “คาสิโนกับการฟอกเงิน” สู่การทำความเข้าใจกลไกป้องกันเงินสกปรก!
บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ศัพท์สำคัญอย่าง AML, KYC, PEP ที่ไม่ได้มีแค่ในข่าว แต่เกี่ยวพันกับทุกธุรกรรมในชีวิตประจำวันของคุณ
และมาดูว่าทำไมยุโรปถึงจับตาเงินจากไทย
และชุดเกราะเหล่านี้สำคัญแค่ไหนในการสร้างระบบการเงินที่โปร่งใสและมั่นคง
ไม่กี่วันก่อน อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์พิเศษกับอาจารย์วีระ ธีรภัทร
บทสนทนานั้นมีหลายประเด็นที่คนจับตา แต่สิ่งที่เราสะดุดตาเป็นพิเศษ คือ ตอนที่อดีตนายกฯ พูดถึง Entertainment Complex และประเด็นอ่อนไหวเรื่อง Casino ที่สังคมไทยกังวลกันมานานว่าอาจจะเป็นทางผ่านของ การฟอกเงิน
ทักษิณตอบสั้นๆ ว่า ในโลกสมัยใหม่ เรามีเครื่องมือและกฎเกณฑ์ เช่น KYC และ PEP ที่ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้
พอฟังแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะอยากชวนมาขยายต่อ — ให้เราเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้แบบลึกขึ้น พร้อมทั้งเห็นว่ามันเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันและระบบการเงินรอบตัวเราแค่ไหน
AML, KYC, PEP: ชุดเกราะที่ทำให้เงินในระบบสะอาด
เวลาเราโอนเงิน ซื้อของออนไลน์ เปิดบัญชี หรือส่งเงินไปต่างประเทศ ทุกขั้นตอนนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคหรือดิจิทัล แต่เป็นเรื่องของ ความเชื่อมั่น และ ความโปร่งใส
สามตัวย่อที่ได้ยินบ่อย คือ:
- AML (Anti-Money Laundering): การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
- KYC (Know Your Customer): การยืนยันตัวตนลูกค้า
- PEP (Politically Exposed Person): บุคคลที่มีความเสี่ยงทางการเมือง
มาดูกันว่าคืออะไร และเชื่อมโยงกันยังไง
AML – Anti-Money Laundering
คือ กฎหมายและมาตรการ ที่บังคับให้ธนาคาร บริษัทฟินเทค หรือผู้ให้บริการทางการเงิน ต้อง:
- ติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมการโอน–จ่ายของลูกค้า
- ตรวจสอบที่มาของเงิน
- รายงานธุรกรรมที่สงสัยไปยังหน่วยงานกำกับ (เช่น ในไทย: ปปง.)
ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เงินสกปรกจากอาชญากรรม กลายเป็นเงินสะอาดที่ใช้ในระบบ
KYC – Know Your Customer
เป็นส่วนหนึ่งของ AML
คือขั้นตอนที่ผู้ให้บริการทางการเงินต้อง รู้จักตัวตนและความเสี่ยงของลูกค้า:
เก็บข้อมูลบัตรประชาชน / พาสปอร์ต
รู้จักอาชีพ รายได้ จุดประสงค์การใช้บัญชี
ใช้เทคโนโลยีสแกนใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือ two-factor authentication
เพื่อให้รู้ว่าผู้ใช้บริการคือใคร ป้องกันไม่ให้เป็นบัญชีม้า หรือถูกใช้ฟอกเงิน
PEP – Politically Exposed Person
คือ บุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือคนใกล้ชิดที่อาจถูกใช้เป็นตัวกลาง
เพราะเป็นกลุ่มที่ เสี่ยง ในการถูกทุจริตหรือถูกใช้ฟอกเงิน
ธนาคารจะต้องตรวจสอบเข้มกว่าปกติ (Enhanced Due Diligence) เช่น ติดตามธุรกรรมบ่อยขึ้น ถามถึงแหล่งที่มาของเงินละเอียดขึ้น
ทำไมทั้งหมดนี้ถึงเกี่ยวกับระบบการจ่ายเงิน?
เพราะธุรกรรมการเงินทุกประเภท — ไม่ว่าจะเป็น:
- โอนเงินต่างประเทศ
- ซื้อของด้วยบัตรเครดิต
- เติม e-wallet
- ซื้อขายคริปโต
- โอนเงินจำนวนมากภายในประเทศ
…ล้วนต้องผ่านกระบวนการ AML/KYC เพื่อให้แน่ใจว่า:
- เงินมาจากแหล่งที่ถูกกฎหมาย
- ไม่เชื่อมโยงกับผู้ก่อการร้ายหรือคนใน blacklist
- ไม่ถูกใช้ฟอกเงินหรือซ่อนเส้นทาง
ถ้าธนาคารหรือผู้ให้บริการละเลย อาจถูกลงโทษด้วยค่าปรับมหาศาล — ธนาคารใหญ่ระดับโลกเคยโดนกันมาแล้วนับพันล้านดอลลาร์
ตัวอย่างใกล้ตัว
เปิดบัญชี → ถูกขอ KYC
โอนเงินต่างประเทศเกินวงเงิน → ถูกถามว่าโอนไปทำอะไร
ถ้าชื่อผู้รับตรงกับ blacklist → ธนาคารจะปฏิเสธธุรกรรม
ถ้าเป็น PEP → จะถูกตรวจสอบเข้มขึ้นเป็นพิเศษ
แล้ว “เงินนอกระบบ” ไหลไป–มาได้ยังไง?
เงินนอกระบบ หมายถึง เงินที่หมุนเวียนนอกสายตารัฐ เช่น:
- พกเงินสดข้ามแดน (ไม่แจ้งหรือแจ้งไม่ครบ)
- ใช้บัญชีม้าหรือคนกลาง
- ระบบ Hawala/Hundi ที่โอนผ่านเครือญาติ ไม่ผ่านธนาคาร
- ซื้อขายคริปโตในตลาดที่ไม่ถูกกำกับดูแล
ที่ผ่านมา ไทยเป็นประเทศที่เงินนอกระบบไหลเข้า–ออกง่าย จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการฟอกเงินและเลี่ยงภาษี และยุโรปก็จับตาเราอยู่
ทำไมยุโรปต้องตรวจเข้มเงินจากไทย?
เพราะยุโรปมีกฎหมาย AML และ CFT (ต่อต้านการสนับสนุนการก่อการร้าย) ที่เข้มงวด
และไทยเคยถูก FATF จับตาในฐานะ “ประเทศเสี่ยง” ทำให้ธุรกรรมจากไทยถูกสแกนละเอียดขึ้น
นอกจากนี้ ไทยเข้าร่วม CRS (Common Reporting Standard) ของ OECD
เมื่อธนาคารแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เงินที่เคลื่อนไหวผิดปกติจะถูกตั้งธงแดงทันที
สรุปส่งท้าย
จากคำถามของอ.วีระ ถึงคำตอบของทักษิณ
เราสามารถเห็นภาพว่าโลกการเงินสมัยใหม่ไม่ใช่แค่เรื่อง “จะเปิดคาสิโนหรือไม่”
แต่เกี่ยวพันกับ AML / KYC / PEP ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการฟอกเงิน ควบคุมเงินนอกระบบ และปกป้องความโปร่งใส
เพราะเมื่อเงินหมุนเวียนในระบบได้อย่างสะอาด — ระบบการจ่ายเงินทั้งใบก็จะมั่นคง
และนั่นคือเหตุผลที่วันนี้ แม้แต่โอนเงิน ซื้อของ หรือเปิดบัญชีธรรมดา เราทุกคนก็อยู่ในโครงข่ายป้องกันนี้เช่นกัน
เกี่ยวกับผู้เขียน

นก เรียนด้านไอที มีประสบการณ์ทำงานด้านพัฒนาระบบของธนาคารแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ปัจจุบันทำงานออกแบบระบบของผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์อันดับต้นๆ ของโลก
เวลาว่างชอบทำกับข้าว ดูซีรีย์เกาหลี ชอบติดตามข่าวและความเคลื่อนไหวด้าน Cyber Security และช่วงนี้ติดตาม IG หมีเนย